ใสๆๆๆ

บล็อกนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ความรู้แก่ผู้สนใจในเรื่องของสมุนไพร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวิชาอินเตอร์เน็ตในชีวิตประจำวัน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

วันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2554

โสม (อังกฤษ: Ginseng) เป็นพืชในสกุล Panax โตได้ในบริเวณซีกโลกเหนือ ในทวีปเอเชีย และทวีปอเมริกาเหนือ มีชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Panax ginseng C.A. Mayer

 ประโยชน์ของโสมสาร Adaptogens ในโสม มีคุณสมบัติลดความเครียด ช่วยปรับสภาพร่างกายและจิตใจให้ทนต่อภาวะต่างๆ ได้มากขึ้น และยังช่วยลดความเมื่อยล้า โดยกระตุ้นให้เซลล์ในร่างกายสร้างพลังงานเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า และกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้แข็งแรงมากขึ้น นอกเหนือจากสรรพคุณที่ได้กล่าวมาแล้วยังมีรายงานผลการวิจัยของโสมเพิ่มเติมอีกดังต่อไปนี้

โสมมีส่วนช่วยเพิ่มการสร้างพลังงาน ทำให้นักกีฬามีความทนทานต่อการออกกำลังหนักได้ดีขึ้น และทำให้สามารถนำพาออกซิเจนไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้แข็งแรง โดยการสร้างสาร Interferon ซึ่งเป็นสารต้านเชื้อไวรัส และกระตุ้นการสร้างโปรตีน Interleukin- 1

ช่วยบรรเทาอาการร้อนวูบวาบในหญิงวัยหมดประจำเดือน

ลดการหลั่งฮอร์โมนที่ทำให้เกิดความเครียดจากต่อมหมวกไต

ลดอัตราการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง

ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับปกติ

ช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศ                                   

ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจเป็นปกติ

ลดอาการข้างเคียงจากการฉายรังสี

จากที่กล่าวข้างต้นจะเห็นได้ว่าพืชสมุนไพรชนิดนี้มีสรรพคุณมากมาย ตั้งแต่เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบต่างๆ ในเวลาที่อ่อนเพลีย ช่วยสร้างพลังงานกับร่างกาย ลดภาวะซึมเศร้า เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของหัวใจและหลอดเลือด ไปจนถึงการเสริมสร้างระบบความจำของสมอง ถึงแม้ว่าการรับประทานโสมอาจทำให้มีอาการนอนไม่หลับได้บ้าง แต่ในปัจจุบันยังไม่พบอาการไม่พึงประสงค์ที่ร้ายแรงจากการใช้โสม (การใช้โสมหรือสมุนไพรอื่นๆ ในผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง ควรอยู่ภายใต้การควบคุมของแพทย์หรือเภสัชกร) นอกเหนือจากสรรพคุณที่ได้กล่าวมาแล้วยังมีรายงานผลการวิจัยเกี่ยวกับโสม ดังนี้

เสริมสร้างสมรรถภาพ ทางเพศ ช่วยลดอาการร้อนใน ในหญิงวัยหมดประจำเดือน ลดการแพร่กระจายเซลล์มะเร็ง ลดผลข้างเคียงจากการฉายรังสี ลดความเครียด จากการหลั่งฮอร์โมนที่ต่อมหมวกไต ลดระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับมาตรฐาน อัตราการเต้นของหัวใจสมำ่เสมอ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น